Tuesday 29 September 2009

Week 26 Shizuoka : ใครจะรู้ว่าผมปีน Mt.Fuji รอบสอง


หลังจากที่เดือนก่อนขึ้นภูเขาไฟฟูจิที่เรียกได้ว่าสูงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความสูงถึง 3760 เมตรนั้น แล้วไม่ประสบความสำเร็จเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ คือไม่ได้เดินวนรอบปากปล่องเหมือนที่ตั้งใจ เพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย ลมกรรโชกแรง และมีฝนตก จนมีคนตกลงไปตายสองคนในวันที่ขึ้นไปนั้น คิดไว้ว่าต้องขึ้นอีกรอบให้ได้นั้น


คราวนี้มีจังหวะและอากาศที่เป็นใจ เลยใจกล้าเลือกเส้นทางหฤโหดที่เขากล่าวขานกัน เส้นทางโกเทนบะแทบจะไม่มีใครกล้าเดินขึ้นเพราะใช้เวลาเดินมากกว่าเส้นทางอื่นๆ ถึงเท่าตัว ทางเดินไกล ไต่จากระดับพื้นล่างเลยก็ว่าได้ ไม่เหมือนเส้นทางอื่นที่เริ่มเดินที่ความสูงเกือบสามพันเมตรแล้ว แต่ที่หนักจริงๆ น่าจะเป็นพื้นผิวทางเดินที่ไม่เหมือนใครมากกว่า มันเป็นพื้นทรายที่เกิดจากลาวาที่ไหลออกมาแล้วเย็นตัวลง คิดดูสิครับเกือบห้า ชม ที่ต้องเดินลากสังขารไต่ความสูงไปบนพื้นทราย มันช่างไถลไหลลงได้ทุกก้าวเลย นอกจากนั้นแล้วเพราะคนมาเส้นทางนี้น้อยจึงไม่มีร้านค้าอะไรเลยระหว่างทาง รวมถึงห้องน้ำด้วย แต่ก็ยังมีคนอย่างผมตั้งใจมากอยู่

ผมและคาซามะซังเริ่มเดินจากชั้นล่างเวลาสองทุ่ม เดินคุยกันไปเรื่อยๆ สองคน เพราะไม่มีคนอื่นเลยได้แต่เห็นแสงไฟห่างออกไปลิบๆ ป้ายบอกทางก็ไม่ค่อยมี สักพักเสียงหอบเริ่มปรากฏ ไม่ใช่ว่าเราสองคนเหนื่อยง่ายนะครับ เพราะเพื่อนผมคนนี้ก็ขึ้นฟูจิมาห้าครั้งแล้วด้วย แต่คราวนี้โดนผมลากมาเส้นทางนี้ อย่างที่บอกไปว่าทางเป็นทรายทำให้เดินไปได้ช้าและต้องใช้แรงมากกว่าปกติหลายเท่าตัว น้ำที่เอามาเริ่มร่อยหรอ ประกอบกับความเหนื่อยเริ่มมาเยือน จากชั้นห้า หก เจ็ด แปด จนมาถึงชั้นเก้าจนได้ มีร้านค้าแล้ว รวมแล้วใช้เวลาห้าชม แต่ยังไม่ถึงจุดซัมมิทนะครับ พวกเรานั่งพักและนั่งหลบลม ความหนาวที่ไม่เคยปราณีนักท่องเที่ยวเลย

ตีสองครึ่งเริ่มเดินขึ้นซัมมิท เพื่อไปยังจุดดูพระอาทิตย์ขึ้นทางด้านขวามือ ซึ่งดูแล้วว่าคงจะเสียเที่ยวอีกเพราะหมอกบนยอดเขามีมากเสียเหลือเกิน ตีสามเกือบตีสี่ก็ถึงจึงหาที่ซุกหลบลมและทรายที่พัดเขามาประทะหน้าจนเจ็บ

ผมเผลองีบไปสักพักมาสะดุ้งตื่นเห็นว่ามันเริ่มสว่างแล้ว นาฬิกาบอกว่าตีสี่ครึ่งพระอาทิตย์คงขึ้นแล้วแต่หมอกเยอะมากพัดปกคลุมยอดฟูจิทำให้มองไม่เห็น จึงตัดสินใจเดินไปยอดสูงสุดและวนรอบปากปล่องดีกว่า

ระยะเวลาที่เดินวนรอบปากปล่องจริงๆแล้วใช้เวลาแค่ชม ก็ครบรอบแต่ประกอบกับลมที่พัดแรงเป็นช่วงๆ ทำให้ต้องเดินอย่างระมัดระวัง จึงเดินได้ช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงช่องแคบๆ ลมแรงมากต้องหมอบต่ำๆ เดินไป ไม่งั้นอาจโดนพัดตกเขาเหมือนสองคนก่อนได้ พอครบรอบพวกเราก็อำลายอดฟูจิเสียที

ระหว่างทางเดินลงยามนี้สว่างแล้วเลยได้สังเกตเส้นทางที่เราเดินได้อย่างชัดเจนขึ้น ทางแบบนี้เหลือที่เดินขึ้นมา ทะเลทรายชัดๆ เลยแต่ทำให้ขาลงเราวิ่งลงกันสนุกสนาน ใช้เวลาเพียงสองชม ก็ถึงข้างล่างแล้ว


ชมภาพอื่นๆ ได้ที่ http://lomlamer.multiply.com/photos/album/69/69

No comments: