Thursday 3 September 2009

Hokkaido trip : #1 แวะเซ็นไดชมงานทานาบาตะ


เกือบหกชั่วโมงที่ต้องอยู่บนรถไฟธรรมดาจากโตเกียวมายังเซ็นได มีเปลี่ยนขบวนอยู่สองครั้ง แต่ก็ยังดีที่เตรียมตัวมาก่อนไม่ว่าจะเกมส์หรือหนังที่จับยัดลงเครื่องเล่นเตรียมไว้แล้ว ทำให้หกชั่วโมงผ่านไปแบบไม่เบื่อหน่าย ใกล้ๆ เที่ยงรถไฟช้าขบวนนี้มาจอดพักที่สถานีเล็กๆ มีชื่อว่า ฮาราโนมาจิ คนบนรถออกไปยืนต่อแถวซื้อข้าวกล่องหรือเบนโต๊กัน ไม่ได้เป็นร้านหรอก มีแค่คนถือตะกร้าออกมาขาย คนข้างๆ ไปซื้อมาแล้วบอกว่า เจ้านี้อร่อยและถูกมากไม่ลองกินเหรอ เหลืออีกสองนาทีจึงวิ่งปรืดไปซื้อมาลอง โชคดีที่เหลือกล่องสุดท้ายไม่ต้องถามว่าข้างในเป็นไร ควักเงินจ่ายเลย แล้วกลับขึ้นรถเปิดออกดูหน้าตาเหมือนในรูป ราคากล่องนี้ เจ็ดร้อยห้าสิบเยน คุ้มจริงๆ อร่อยด้วย

พอกินเสร็จรถไฟก็มาถึงสถานีเซ็นไดพอดีเลย วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานทานาบาตะที่จัดว่าที่นี่เป็นงานใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ผู้คนจึงหนาแน่นมากกว่าจะหลุดออกมาได้ ข้างหน้าสถานีมีตัวมาสคอตน่ารักเป็นซามุไรและสาวกิโมโนคนรอต่อแถวถ่ายรูปด้วยเยอะมาก แล้วขึ้นรถไปที่พักที่จองไว้(ปากเปล่า) แถมราคาถูกแค่สามพันเยน พร้อมออนเซ็น ลงรถแล้วต้องเดินต่อ แต่จากแผนที่แล้วหาไม่เจอเพราะเขียนไว้หยาบๆ เลยถามทางจากคนแถวนั้นเขาก็ใจดีพาไปแถมแบ่งไอติมให้กินด้วย จริงๆ แล้วคนญี่ปุ่นก็มีใจดีเหมือนกันเนอะ เจ้าของที่พักแนะนำห้องต่างๆ แล้วพาไปที่ห้องนอน ห้องนี้จะนอนกัน สามคนแต่อีกสองคนยังไม่มา เก็บของแล้วออกไปเดินงานดีกว่า


บริเวณงานเริ่มตั้งแต่ถนนหน้าสถานีรถไฟยาวไปเรื่อยๆ กว่าห้ากิโลเมตร วันนี้อย่าเรียกว่าเดินเลย คนแน่นมากไหลไปตามคนมากว่า สมแล้วที่เขาบอกว่างานใหญ่ เพราะเขาจัดยิ่งใหญ่จริงๆ ของประดับตกแต่งเต็มไปหมด และล้วนใหญ่โตทั้งนั้น บางอันยาวประมาณตึกสามชั้นก็มี นอกจากนั้นแล้วยังสีสันสวยงามอีกด้วย ร้านค้าต่างๆ ก็ออกร้านกันแน่นหนา พอเดินไปสุดทางจะเป็นถนนที่มีเกาะกลางเป็นสวยหย่อม ตอนหกโมงเย็นเขามีการแสดง ละคร และเต้นรำ เสียดายไปไม่ทันละคร ไปถึงพอดีจบเลยไม่รู้เรื่องราว

เดินกลับมาที่จุดเริ่มอีกรอบ ด้วยหวังว่าจะหาของกินเพราะท้องเริ่มหิวแล้ว เพื่อนคนญี่ปุ่นแนะนำก่อนมาว่า ที่เซ็นไดนี่ เจ้ากิวทังอร่อยมาก มันคือลิ้นวัว เลยเดินหาจนไปเจอร้านที่เป็นบุฟเฟ่ต์และมีกิวทังด้วย ร้านนี้จะแขวนโคมหมูไว้หน้าร้าน จังหวะนั้นราคาไม่สนใจแล้ว สามพันเยนได้ หิวเต็มที่ จึงพุ่งเข้าไปแต่ดันคิวยาวต้องรอหนึ่งชั่วโมงได้ เลยขอบายดีกว่า มาซือกิวทังไม้เสียบกิน ห้าร้อยเยน แก้หิวและแก้ความอยาก อร่อยจริงๆ แล้ว

โฉมหน้าเจ้ากิวทังแสนอร่อย

ระหว่างเดินกลับมาที่พักเลยแวะซัดราเม็งไปอีกชาม ทีนี้อิ่มนอนได้แล้ว เพื่อนร่วมห้องกลับมาแล้ว เป็นคนเกาหลีและคนจีนอย่างละคน คราวนี้ห้องนี้เลยเป็นห้องไตรประเทศ ไทย จีน เกาหลี แต่คุยกันด้วยภาษาญี่ปุ่นสนุกเลย

สภาพห้องก่อนปูที่นอน มีทีวี แอร์ ราคาสองพันแปดร้อยบาท

ทางขวาเป็นคนจีนชื่อ เจี๊ยะ คนซ้ายเป็นเกาหลีชื่อ จิโฮ คนกลางกลายเป็นปู่ไปเลย เพราะแต่ละคนอายุประมาณยี่สิบเอง เศร้า!

No comments: