Hokkaido Trip :#6 Asahikawa มีดีกว่าที่คิด

อาซาฮีกาว่า เมืองนี้ได้ยินบ่อยมาก ชื่อเหมือนยี่ห้อเบียร์ของญี่ปุ่น นอกจากนั้นแล้วยังได้ยินว่ามีสวนสัตว์ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นตั้งอยู่อีกด้วย ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวสวนสัตว์อยู่เหมือนกัน แต่พอคุยกับเคาเตอร์ท่องเที่ยวแล้ว มีอีกที่น่าสนใจกว่าเยอะเลย ภูเขาไฟอาซาฮีดาเกะ ที่มีความสูงประมาณ 2290 เมตร และมีเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปดูปล่องกำมะถันด้วย จึงตัดสินใจได้ทันทีวิ่งขึ้นรถบัสสายนั้นไปเลย

รถบัสมาแวะจุดหนึ่งระหว่างทางหลังจากวิ่งมาได้หนึ่งชม ซึ่งก็แค่ครึ่งทางเท่านั้นเอง วิวข้างทางก็สวยดีเป็นหน้าผาหินตัดยาวเป็นแนว น่าจะเกิดจากการตัดถนน อีกหนึ่ง ชม หลังก็ถึงสถานีเคเบิ้ลคาร์ จ่ายตังค์ไป 1320 yen และไปจ่ายค่าตั๋วเคเบิลคาร์อีก 2800 yen ไปและกลับ ใช้เวลาแค่ สิบห้านาทีก็ถึงสถานีข้างบนที่ระดับความสูงแค่ 900 เมตร ไหงทำไมมันเตี้ยนักล่ะ

พอดูแผนที่แล้วก็เข้าใจว่า สถานีนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเดินขึ้นยอดสูงสุด ตัดสินใจอยู่พักนึงเพราะไม่ได้เตรียมตัวมา เลยเดินไปรอบๆ ก่อนแล้วกัน ข้างบนนี้ยังมีหิมะเหลืออยู่เลย บางส่วนก็ละลายกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังสามารถมองเห็นวิวได้ไกลมาก แค่นี้ก็คุ้มแล้วที่ขึ้นมา

เดินมาสักพักก็เจอบ่อกำมะถันที่มีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลาเลย เหม็นอีกด้วย เดินถัดมาอีกนิดจะมองเห็นเส้นทางขึ้นไปยอดสูงสุด ลังเลอยู่นิดนึง แต่ดูเส้นทางแล้วท้าทายดีเลยเป็นไงเป็นกัน พอมองไปข้างๆ เห็นคนญี่ปุ่นคนหนึ่งมาคนเดียวเหมือนกัน ยืนลังเลอยู่แบบเราเลย ก็นึกอยู่ว่าเขาจะขึ้นไหม แต่ไม่รอแล้วจ้ำอ้าวไปก่อนล่ะ


มาได้สักพักมองลงไปก็เห็นเขาตามขึ้นมาเหมือนกัน จึงหยุดรอจะได้มีเพื่อนคุยด้วย เอจิซังคือชื่อของเขา มาจากวาคายามะ อายุเท่ากันเลยด้วย เขาบอกว่าตอนแรกเขาก็จะไม่ขึ้นแต่เห็นเราขึ้นก็เลยตามขึ้นมาด้วย เขาเห็นรองเท้าที่ใส่มาเป็นผ้าใบธรรมดายังขึ้นได้ แต่ขอบอกไม่ใช่ธรรมดานะคู่นี้ เก่าอีกต่างหาก แต่มันก็พาขึ้นยอดฟูจิมาแล้วนะ


ใส่สปีดเต็มที่เลยเพราะเวลามันบ่ายแก่แล้ว ใช้เวลาแค่ ชม ครึ่งก็ถึงยอด จำไม่ได้ว่าแซงมากี่คน แต่มีนายเอจิเพื่อนใหม่นี่แหละที่เดินตามมาข้างหลัง บนยอดมองเห็นยอดเขาหิมะอื่นๆ ได้รอบทิศ บางยอดยังมีหิมะอยู่เลย สักพักมีญี่ปุ่นอีกคนมาขอให้ถ่ายรูปให้มาคนเดียวเหมือนกันก็เลยสงเคราะห์ให้ นายซึโยชิ มาจากเกียวโต เขามาปั่นจักรยานที่ฮอกไกโด สุดยอดเลยครับ


พอหายเหนื่อยก็ลง จริงๆ ยังไม่เหนื่อยเลยด้วย รวมแล้วไปกลับใช้เวลาไม่ถึงสี่ชม จริงๆ แล้วคนอื่นขึ้นกันตั้งแต่เช้าแล้วลงบ่าย ก็ไม่รู้นี่นา เวลาก็ไม่มีต้องลงมาขึ้นรถบัสให้ทันคันสุดท้ายตอนหกโมงเย็นด้วย ขากลับลงมาพร้อมซึโยชิซัง ส่วนเอจิซังขอพักก่อนยังไม่ลงเคเบิ้ลคาร์ ลงมาแล้วซึโยชิซังเลยเลี้ยงไอติมก่อนปั่นจักรยานแยกจากไป สุดท้ายทริปนี้ก็ได้เพื่อนใหม่มาสองคน

ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่
http://lomlamer.multiply.com