Wednesday 9 September 2009

Hokkaido Trip :#4 Bibaushi เมืองนี้เงียบแต่สวย



ก้อนกลมเนี่ย ฟางข้าวนะครับ

หลังจากผิดหวังจากฟาร์มโตมิยะที่ไม่มีดอกลาเวนเดอร์เต็มทุ่งให้ถ่ายรูปสมใจแล้ว ก็เข้าที่พักที่อยู่ถัดไปอีกสี่ป้ายรถไฟ มีชื่อว่า บิบาอุชิ เป็นสถานที่ๆ เงียบมากๆ ไม่ใหญ่โตอะไร แต่ระหว่างทางก่อนถึงวิวสวยงามมาก โดยเฉพาะทุ่งหญ้าที่มีเจ้าม้วนกลมๆ วางอยู่ มันคือม้วนหญ้าแห้งนั่นเอง ที่พักคืนนี้ไม่มีคนอื่นๆ เลย มีผมคนเดียวที่เป็นแขกมาพักอาศัย คงจะเพราะถัดไปอีกไม่กี่ป้ายก็ถึงเมืองบิเอ เมืองใหญ่น่าอยู่กว่าก็เป็นได้

หลังอาบน้ำแล้วจึงมานั่งจิบชาคุยกับป้าเจ้าของที่พัก แกก็เอาสมุดภาพที่มีช่างภาพชาวญี่ปุ่นถ่ายเมืองนี้ไว้มีทุกฤดูเลย สวยมากๆ เลยบ่นกะแกว่าอยากเห็นทุ่งลาเวนเดอร์งามๆ แต่ตอนนีมันแห้งตายหมดแล้ว แกก็แย้งกลับมาว่ายังไม่หมดยังเหลืออีกที่ ผมอดดีใจเล็กๆ ไม่ได้รีบให้แกบอกทาง โชคดีที่อยู่ไม่ไกลเพราะพรุ่งนี้ผมต้องย้ายไปนอนที่เมืองบิเอแล้ว เวลาอาจจะไม่พอได้

เจ้าฟาร์มนี้เหมือนอยู่แค่ปลายจมูกเอง แค่เดินข้ามเนินย่อมๆ แค่ห้านาทีก็จะเจอฟาร์มแล้ว โอ้พระเจ้า เกือบไปแล้ว ขอบคุณป้าแกที่บอก กะว่าพรุ่งนี้เช้าก่อนออกไปบิเอจะแวะไปสักหน่อย

ยามเช้าของที่นี่เรียบง่าย สบายๆ มีหมอกอ่อนปกคลุมอยู่ทั่วไปหมด อากาศเย็นๆ นิดหน่อย หลังจากเดินขึ้นเนินมาได้สักพักก็ถึงยอด จากยอดมองเห็นอีกด้านเป็นฟาร์มใหญ่ ทางซ้ายมือเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์เต็มไปหมดสุดสายตา แถมตอนนี้กำลังบานส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งเนินเลย อีกด้านเป็นแปลงดอกไม้ สลับสีกัน สวยงามมาก เรียกว่าเอา สองฟาร์มแรกบวกกันถึงจะใหญ่เท่า แต่ทำไมที่นี่ไม่เป็นที่นิยมต้องลงไปหาคำตอบซะแล้ว
ฟาร์มนี้มีชื่อว่า คาโนฟาร์ม อยู่ห่างจากสถานีรถไฟบิบาอุชิ เดินเพียงสิบห้านาที ร้านค้าขายของมีไม่มากนี่เองทำให้คนไม่นิยมมากกัน แต่ถ้าใครไม่แวะเรียกว่า เสียดายแย่เลย ผมต้องขอบคุณป้าเจ้าของที่พ้กเกือบพลาดไปแล้ว

เขาขี่รถจากชิซึโอกะขึ้นมาฮอกไกโดคนเดียว สุดยอดเลยครับ

ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่
http://lomlamer.multiply.com

No comments: