Thursday 7 May 2009

ฮาโกเนะ(hagone) คลาสสิคตลอดกาล


ฮาโกเนจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น อยู่ในละแวกเชิงเขาฟูจิ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 70 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น อาบน้ำแร่ ,เดินป่า ,นั่งรถกระเช้าข้ามเขาเล่นสนุกๆสัก 5 - 6 ลูก
ซึ่งถ้าได้นั่งสักครั้งนึงท่านจะลืมเครื่องเล่นในสวนสนุกไปเลย เพราะระยะทางของรถกระเช้านี้ ยาวไกลหลายกิโลเมตร ตัดผ่านภูมิประเทศของหุบเขา และทะเสสาบอันแสนสวยงาม เมื่อมองจากมุมสูงลงมายังป่าสนและเนินเขาด้านล่างนั้น งดงามและประทับใจยิ่งนัก ในวันที่อากาศดี ไกลออกไปก็จะเห็นภูเขาไฟฟูจิ… และในช่วง 2 - 3 กิโลเมตรสุดท้าย ก่อนถึงสถานีรถกระเช้าปลายทาง ท่านจะเห็นทะเลสาปอาชิ ( Ashi ) อยู่ด้านซ้าย ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าและส่องกระทบผิวน้ำในทะเลสาบ จะเห็นเป็นประกายสีทองระยิบระยับ นอกจากนี้ในทะเลสาบแห่งนี้มีเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ 4 -5 ลำซึ่งสร้างเลียนแบบเรือโจรสลัด สมัยก่อนแล่นไปมาอยู่ด้วย ฯลฯ
ก่อนอื่นก็ขอเล่าให้ฟังก่อนครับว่าจะเดินทางไปได้อย่างไร ถ้าเริ่มต้นเดินทางจากโตเกียว ส่วนใหญ่นิยมไปขึ้นรถไฟที่สถานีชินจูกุ ( Shinjuku ) เพราะว่าที่นี่จะมีตั๋วรวมมิตรขายราคาประมาณ 5 พันเยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 1500 เยนสำหรับเด็ก ถามหา "Odakyu Hakone Free Pass" ได้ จากเคาร์เตอร์บริษัทเดินรถ Odakyu ภายในสถานีรถไฟชินจูกุ บัตรรวมมิตรนี้จะรวมค่ารถไฟด่วน ( หรือ Tokkyu ในภาษาญี่ปุ่น แต่ยังไม่เร็วถึงระดับชินกันเซน ) ไปถึงสถานีรถไฟในย่านฮาโกเน ค่ารถกระเช้า ค่าล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ ค่ารถเมล์ ในแถบฮาโกเน ส่วนลดในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวย่านนั้น ฯลฯ อีกทั้งเป็นตั๋วสองวันด้วยครับ แต่ถ้าตั๋วสามวันจะราคาเพิ่มไปอีกห้าร้อยเยน
จากสถานีชินจูกุ ให้นั่งรถไฟของ JR สายยามาโนเตะ ( Yamanote Line) ไปลงที่ สถานีชินากาวา ( Shinagawa ) ที่นี่ให้ต่อรถไฟสายโทไคโด ( Tokaido Line ) ลักษณะเด่นคือขบวนเป็นสีส้มเขียว ไปลงที่สถานีโอดาวาระ ( Odawara )ต่อคำถามที่ว่า รถจะแล่นอืดเป็นหวานเย็นหรือเปล่า ไม่เลยครับ รถไฟในญี่ปุ่นแล่นเร็ว (แต่ปลอดภัย) แทบทุกสาย แต่จะจอดทุกสถานีเท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นรถเร็วขึ้นไปก็จะจอดบางสถานีครับ
ก็ไม่ว่าท่านจะเดินทางมาโดยรถไฟของ Odakyu หรือ JR ในที่สุดก็จะมาถึงสถานีโอดาวาระ สำหรับท่านที่พลาดการซื้อตั๋ว Odakyu Hakone Free Pass ที่ชินจูกุ ก็ยังคงหาซื้อตั๋วแบบรวมมิตรได้อีกที่นี่ ราคาอยู่ที่ประมาณ 3900 เยน และ พันเยนสำหรับเด็ก โดยราคาถูกลงเนื่องจากตั๋วตัดค่าเดินทางไป-กลับโตเกียวออกไปแล้ว
โอดาวาระจัดว่าเป็นประตูทางเข้าสู่ย่านฮาโกเน ท่านที่มาถึงเช้าๆอาจจะแวะไปชมปราสาทโอดาวาระก่อนก็ได้ อยู่ไม่ไกลจากสถานีเท่าใดนัก ลืมบอกไปครับว่า เส้นทางท่องเที่ยวในย่านฮาโกเนนี้มีคนคิดค้นออกมาหลากหลายเส้นทางด้วยกัน ทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับ แบบไปค้างคืน ทางท่องเที่ยวแบบไปเย็น - เช้ากลับ เส้นทางที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเส้นทางยอดนิยมมากในหมู่นักเดินทางแบบแบ็กแพ็ค เรียกว่า เส้นทางสายทองสู่ฮาโกเน ( Hakone Golden Route )
จากสถานีโอดาวาระ ก็ถือได้ว่ามาอยู่ในย่านฮาโกเนแล้ว มีกิจกรรมและสถานที่ให้ชมมากมายระหว่างทาง สถานที่อาบน้ำแร่ธรรมชาติมีให้เลือกนับร้อยแห่งตลอดทาง แต่ผมขอแนะนำเฉพาะสถานที่ๆเป็นไฮไลต์และประทับใจแบบสุดๆ ที่เหมาะกับเวลา 1 วัน
ดังนี้
ถ้าเดินทางมากับขบวนรถของ Odakyu จะลงแวะชมเมืองโอดาวาระและปราสาทโอดาวาระก่อนก็ได้ หรือจะนั่งต่อไปยังปลายทางที่ สถานี Gora ก็ได้ แต่ถ้ามากับ JR ต้องลงเพื่อเปลี่ยนขบวนรถที่นี่ไปใช้บริการของรถไฟท้องถิ่น สายฮาโกเน - โทซัน ( Hakone - Tozan Line ) ที่สถานีที่ 9 (นับจากโอดาวาระ) ชื่อ โชโกกุ โนะ โมริ ( Chokoku no mori ) ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ประติมากรรมกลางแจ้งซึ่งมีชื่อเสียงมาก ด้วยจุดเด่นสองประการคือ
1. สถานที่แสดงประติมากรรมอยู่กลางแจ้ง และมีสภาพภูมิประเทศเป็นเนินเขา ลดหลั่นกัน เนินเขาแต่ละลูกชอุ่มไปด้วยหญ้าสีเขียวขจี มีต้นไม้ใหญ่อยู่ประปรายแต่เห็นได้ชัดว่าถูกคัดสรร และวางตำแหน่งให้สอดรับกับประติมากรรม
2. ประติมากรรมแบบกลางแจ้งซึ่งเป็นผลงาน (ทั้งจริง และจำลอง ) ของศิลปินชั้นยอด โดยถูกสร้างจากวัสดุ ที่ทนทานต่อดินฟ้าอากาศ
หลังจากเยี่ยมชมที่นี่แล้ว จะเดินหรือนั่งรถไฟไปก็ได้ เพราะสถานีโกระอยู่ห่างไปแค่ 1 สถานีเท่านั้น จากโกระมีรถรางซึ่งแล่นขึ้นเขาไปยังสถานี โซอันซัน ( Sounzan) ซึ่งรถกระเช้าซึ่งผมเกริ่นถึงในตอนต้นจะจอดอยู่ที่นั่น จากโซอันซันขึ้นรถกระเช้า ก็จะตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพที่รถเคลื่อนตัวผ่านไปในหุบเขา ด้านซ้ายมือก็จะเห็นเขาคามิยามา และเขาโคมางาตาเกะอยู่ลิบๆ ประมาณ
12 นาทีก็จะมาถึงสถานีโอวาคูดานิ ( Owakudani ) แนะนำให้ลงเที่ยวที่นี่สักพักครับ
ที่โอวาคุดานิ เป็นภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่ มีบ่อน้ำร้อนอยู่หลายบ่อด้วยกันแต่อาบไม่ได้มองไปทางไหนก็จะเห็นควันสีขาวๆของก๊าซกำมะถันอยู่ทั่วไปหมด กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ก็คือการซื้อไข่ดำต้มน้ำแร่ร้อนกินกันครับ ผมไม่แน่ใจว่าธรรมเนียมนี้เริ่มต้น
จากที่ไหนในโลก แต่เห็นทำกันจนชินตาตามบ่อน้ำร้อนธรรมชาติต่างๆ เช่นแถวๆสันกำแพง เชียงใหม่ก็มีไข่ให้ซื้อไปต้มทาน แต่ที่แปลกก็คือเนื่องจากที่โอวาคุดานิเป็นน้ำแร่ร้อนๆดังนั้นไข่ที่ต้มจะมีเปลือกเป็นสีดำครับ และก็ตามคติความเชื่อของญี่ปุ่นกิน
(ไข่ต้มน้ำแร่ร้อน) 1 ใบอายุยืนไป 7 ปี (มีบางคนเข้าใจผิดเขียนลงหนังสือว่าหนึ่งปีครับ แต่ผมแปลจากป้ายแล้วเป็นดังนี้ครับ) ไข่ดำนี่หาซื้อได้ที่ร้านขายตรงปากปล่องควันครับ เขาไม่ให้เราต้มเองครับ ห้าฟอง ห้าร้อยเยน
ที่นี่ถ้าอากาศดีๆ จะเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิได้แล้วจากจุดนี้ กินไข่ต้มไปชมวิว ภูเขาไฟฟูจิไป และบรรยากาศอบอวลไปด้วยไอขาวๆของก๊าซร้อนจากพื้นพิภพ จากจุดนี้ขึ้นรถกระเช้าต่อครับ คราวนี้นั่งยาวไปถึงสถานีปลายทางที่โทเกนได (Togendai) ครับ ภูเขาไฟฟูจิอยู่เยื้องไปทางด้านหน้าขวา ภูมิประเทศช่วงนี้ด้านล่างจะเป็นหุบเขา และป่าสน สวยงามมากครับ เมื่อใกล้ถึงสถานีโทเกนไดก็จะเริ่มเห็นทะเลสาบที่ผมบรรยายไว้ในตอนต้น (แต่ตอนที่ไปรถกระเช้าช่วงนี้หยุดซ่อมครับ คาดว่าปีหน้า 2010 ถึงจะเสร็จ)
ที่สถานีปลายทาง เดินลงมาไม่ไกลก็จะเห็นท่าเทียบเรือท่องทะเลสาบ เรือที่ใช้ถูกสร้างเลียนแบบโจรสลัดในทะเลสมัยก่อน แต่จริงๆไม่เคยมีโจรสลัดที่นี่หรอกครับ ญี่ปุ่นมักจะสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้าง และยานพาหนะแบบแฟนตาซีอยู่เสมอๆเป็นสิ่งที่พบเห็นได้จนชินตา และอยากให้แหล่งท่องเที่ยวบ้านเราทำแบบนั้นบ้าง เรือพวกนี้สามารถใช้ตั๋วรวมมิตรล่องเรือไป - กลับได้ฟรี 1 ครั้ง ( ก่อนขึ้นสังเกตชื่อเรือก่อนนะครับ เรือจะใช้เวลาล่องทะเลสาบประมาณ 40 นาที หลังจากแล่นออกจากท่าไม่นานเหลียวมองด้านหลัง ก็จะเห็นภูเขาฟูจิ และก็มีโทริอยู่ในทะเลสาบ ( Torii ประตูทางเข้าอารามของลัทธิชินโต ตามคติความเชื่อถือว่าเป็นเส้นแบ่งระหว่างโลก กับสวรรค์ ) วิวนี้ มุมนี้ จัดว่าเป็นวิวไฮไลต์เลยครับ หลายท่านคงเห็นภาพนี้บ้างแล้ว
หลังจากเรือแล่นมาถึงอีกด้านของทะเลสาบ ก็จะจอดเทียบท่าที่เมืองฮาโกเน มาชิ ( Hakone machi ) ที่นี่ถือว่าเป็นจุดยอดของการเที่ยวตามเส้นทาง Hakone Golden Route การเดินทางกลับจะย้อนกลับเส้นทางเดิมก็ได้ หรือจะไปอีกเส้นทางเป็นวงรอบก็
ได้ ซึ่งผมขอแนะนำแบบหลังเพื่อจะได้ชมทัศนียภาพแบบหลากหลาย

ที่ฮาโกเน มาชิมีสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อมากมาย ซึ่งผมแนะนำให้ลองแวะชิมอาหารพื้นเมือง และซื้อโปสการ์ดเก็บไว้เป็นที่ระลึก หลังจากจับจ่ายจนหนำใจ เดินเลียบถนนริมทะเลสาบมุ่งหน้าไปทางเมืองโมโตฮาโกเน ( จริงๆอยู่ใกล้กัน และเป็นทางเลียบทะเลสาบมีป้ายบอกชัดเจนคงเดินไม่หลง ) ระหว่างทางจะมีสวนสาธารณะริมทะเลสาบ บรรยากาศดีเหลือเกิน เป็นเนินเขาริมทะเลสาบ และมีทางเดินลัดเลาะไปตามแนวสน เรียกว่า ป่าสนซีดาน ครับ จากที่นี่เดินอีกไม่ไกลก็จะถึงเมืองโมโตฮาโกเน ขึ้นรถบัสกลับไปลงที่โอดาวาระ และต่อรถไฟกลับสู่โตเกียว

No comments: