วันที่สิบแปด - เมืองเก่า Nara และพระใหญ่

แปลกไหม ที่เวลาคนไทยอยู่ด้วยกันหลายๆ คนแล้วชอบรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ต้องทำอะไรเหมือนๆ กัน รู้สึกหลายครั้งแล้ว วันอาทิตย์นี้ชวนคนไทยไปเดินเมืองนาราด้วยกัน แต่ไม่มีคนไปอ้างว่าคนนั้นไม่ไป คนนี้ไม่ไป บางคนตั้งแต่มาที่นี่ยังไม่เคยออกไปไหนเลย อย่างเจ้ายันน้องที่มาด้วยกันเป็นต้น อันนี้ไม่ว่ากันเพราะเขาอาจจะอยู่แต่ในห้องก็ได้ สงสัยซุ่มอ่านหนังสือ แต่ไม่ใช่ผมสียหล่ะ ผมกะคน MCP อีกคน ก็เลยรวมตัวกับคนจีนอีกสามคน นั่งรถไฟไปเที่ยวนารากันซะเลย

พวกเราใช้เวลาแค่ครึ่ง ชม. ก็มาถึงสถานีรถไฟเมืองนารา แต่มาเสียเวลาหันซ้ายหันขวาเพราะไม่รู้จะไปทางไหนนี่สิ ดูแผนที่ก็งงเพราะมันเล็กด้วยหล่ะ จนมีลุงคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม ว่าจะไปไหน สุดท้ายแกบอกว่าแกว่างอยู่จะพาไป อาาาโชคดีจริงๆ ได้คนพื้นที่พาไป แกมาหยุดหน้าร้านขนมหนึ่งซึ่งแกบอกว่าเป็นร้านขนมโมจิที่มีชื่อเสียงมากๆ ของนารา ถ้าใครมาแล้วไม่ได้กินเหมือนมาไม่ถึง แต่ตอนนี้ยังเพิ่งเปิดร้านเดี๋ยวค่อยมาตอนกลับก็ได้ เดินมาอีกสักหน่อยมองเห็นเจดีย์ 3 ชั้น ถัดมาเป็นเจดีย์ 5 ชั้นที่เป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย ที่วัด kofukuji จะติดกับทางเข้าสวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวางเยอะแยะเลย สิบนาทีได้กว่าจะเดินไปถึงวัด Todiji ทางเข้าก็เต็มไปด้วยกวางอีกแล้ว

วัด Todiji เป็นวัดเก่าที่มีพระองค์ใหญ่ตั้งอยู่ ต้องเดินผ่านหลายชั้นกว่าจะเข้าไปถึง มีสิ่งสำคัญอยู่สองสิ่งคือ ถ้าหาเสาไม้ดีๆ จะพบว่ามีอยู่ต้นหนึ่งที่มีรู คนญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้ารอดได้จะฉลาดขึ้น แต่รูมันเท่ากับเด็กประถม ดูยังไงก็ติดเข้าไปได้แค่คออ่ะครับ อีกสิ่งคือพระ Binzuru ทีภายใต้ผ้าคลุมสีแดงตัวองค์ถูกลูบไล้จนมันเลย เพราะเขาเชื่อว่า ถ้ามีอาการเจ็บปวดตรงไหนให้แตะที่ตรงนั้นแล้วไปแตะส่วนนั้นบนองค์พระก็จะหายเจ็บปวดครับ

ขากลับก่อนไปสถานีรถไฟ แวะเข้าไปวัดชินโต ที่ชื่อ Kasuga Grand Shrine ที่เป็นหนึ่งในมรดกโลกเหมือนกัน เพราะมีโคมรอบๆ วัดเป็นพันดวง เหมือนกับวัดก่อนที่เกียวโตที่มีเสาแดงเต็มวัดครับ เขาตั้งถังสาเกเอาไว้เต็มเลยครับ ลวดลายสวยๆ ทั้งนั้น เดินกลับลงมาผ่านร้านทำขนมโมจิที่ลุงแกบอกไว้เลยแวะซื้อกินอันละ 130 เยน อร่อยมากๆ ครับ เดินวนเข้าไปในเมืองเก่า ที่ถนนแคบๆ บ้านเตี๊ยๆ เต็มไปหมดก่อนหมดแรงมานั่งกินข้าวหน้าหมูทอด カツどん