Week 19 Shizuoka: Maru Sushi and Movie

อาทิตย์นี้หนังชื่อดังอย่างแฮรี่ย์พรอตเตอร์ Harry Plotter จะเข้าโรง แต่ที่ญี่ปุ่นมักจะเข้าโรงล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ อยู่เสมอ ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร ทำให้กว่าจะไปดูที่โรงจริงก็โหลดจากเนทมาดูแล้ว แต่ครั้งนี้หักใจไม่ดูแม้ว่าจะมีให้โหลดแล้วก็ตาม

นี่แหละซูชิถั่วเน่า
วันที่ไปดูนั้นเป็นวันหยุด ทำให้คนเยอะมาก มากจริงๆ จนจองรอบที่ตั้งใจไว้ไม่ได้ สงผลให้มีเวลาอีกกว่าสองชั่วโมงถึงจะได้ดูรอบต่อไป คราวนี้ทำไงดีล่ะ โยเนดะซังที่ไปดูด้วยกัน เหมือนจะกังวลว่าจะพาไปไหนดี แล้วก็นึกออกว่าไปกินซูชิสายพานกัน หรือที่เรียกว่า มาวารูซูชิ ราคาไม่แพงมากนักตกจานละ ร้อยเยน มีสองชิ้นบ้าง หนึ่งชิ้นบ้าง ปลาก็มีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นแซลมอลสด รมควัน หรือมากุโร่เนื้อแดง หรือปลาหมึก หรือกุ้ง แต่ที่ชอบนอกจากแซลมอลแล้ว ก็จะมีปลาอาชิที่สดแล้วยังให้ความสดชื่นในปากด้วย แต่ที่ต้องระวังหน่อยก็คือ ซูชิที่ใส่ถั่วนัตโตะมาด้วย ขืนไม่ระวังกินเข้าปากไปเป็นได้คายทิ้งแน่ๆ เจ้าถั่วนัตโตะนี้นะ ไม่ใช่คนญี่ปุ่นจะชอบไปซะทุกคนหรอก เขากินกันและชอบกันแค่ตอนล่างของเกาะเท่านั้น น่าจะประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ได้มั้ง นอกนั้นเขาก็ร้องยี้เหมือนกัน

โต๊ะที่นั่งจะมีก๊อกน้ำร้อนอยู่ด้วย ไว้สำหรับชงชาเอาเองเลย แล้วจะมีจอแบบแตะให้กดเลือกเมนูที่จะจองเป็นพิเศษ ราคาก็เท่ากันเพียงแต่จะส่งมาให้เฉพาะเลย บางที่อาจจะมีอีกรางเป็นรถด่วนวิ่งมาส่ง พอถึงที่ก็จะมีเสียงร้องให้รู้กันลืมว่าได้สั่งไป ร้านที่ไปคราวนี้กินเสร็จแล้วยังเอาจานใส่ในช่องเก็บเพื่อเล่นเกมส์ด้วย ห้าใบเล่นได้หนึ่งครั้ง พวกเราซัดกันไปสามสิบจานได้ ถ้าเล่นเกมส์ชนะ ก็จะมีไข่ตกลงมาข้างในก็มีของเล่นที่ระลึกและบัตรส่วนลดสำหรับครั้งต่อไป ดีเนอะนอกจากจะอิ่มแล้วยังได้สนุกอีกด้วย

กลับมาโรงหนัง หน้าโรงก็เหมือนบ้านเรา แต่เขาจะมีเครื่องออกตั๋วอัตโนมัติสำหรับคนที่จองผ่านอินเตอร์เนทมาล่วงหน้า สะดวกดี รวดเร็ว แต่พอเข้าไปในโรงหนังพบว่า โรงไม่ใหญ่นักแม้ว่าที่นี่จะใหญ่สุดในภูมิภาคนี้แล้วก็ตาม เรียกว่า ต้องตั้งคอจนเมื่อยเลยทีเดียว กว่าจะดูจบต้องพลิกคอไปมาหลายตลบเลย

พอดูหนังเสร็จก็หิวอีกแล้ว เลยชวนกันไปร้านราเม็งที่เขาว่ากันว่าอร่อย อย่างนี้ต้องลองน่ากินไหมครับ