Sunday 21 June 2009

Hagone กะไข่ดำๆ



จริงๆ ลิมเขียนทริปนี้ไปแล้วเพราะมัวแต่ยุ่งๆ แต่นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้เขียนเลย อย่างที่ทุกคนรู้ว่าทัวร์ส่วนใหญ่จะจัดมาที่นี่กันเยอะด้วยจุดประสงค์เดียวกันคือ เป็นจุดชมวิวฟูจิทีสวยงามและยังมีทะเลสาปอาชิอีก
จุดเริ่มต้นปกติจะเริ่มที่สถานีฮาโกเนะยูโมโตแต่คราวนี้นัดเพื่อนไว้ที่สถานีโอดาวาระก็เลยต้องเริ่มที่นั่น เดินไปซื้อตั๋วฮาโกเนะฟรีพาร์ส ตั๋วนี้จะใช้ได้สองวันราคาอยู่ที่ 5000 เยน(จากชินจูกุ) แต่ถ้าจากโอดาวาระจะเหลือเพียง 3900 เยนเองตั๋วนี้จะรวมรถบัส,ตั๋วเรือ,รถไฟภูเขา และกระเช้า รวมไปจนถึงที่เข้าชมบางที่ด้วย อย่างเช่นสวนดอกไม้ที่สถานีโกรา มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ จากสถานีโอดาวาระก็นั่งรถไฟมาที่สถานีฮาโกเนะยูโมโตหลังจากนั้นก็ย้ายมานั่งรถบัสเพื่อไปฮาโกเนะมาจิหรือโมโตฮาโกเนะโค ที่เป็นจุดลงเรือใช้เวลาประมาณ 40 นาที แต่ถ้าใครมีเวลาแนะนำให้แวะระหว่างทางที่มีสวนดอกไม้สวนกล้วยไม้

พอลงรถแล้วก็ไปดูเวลาที่จะลงเรือ เรือที่ว่าเป็นเรือแบบโจรสลัดต้องชมว่าเขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก เมื่อก่อนเขาว่ากันว่าในทะเลสาปนี้มีเรือแบบนี้อยู่ แต่จะจริงไม่จริงก็ไม่รู้เพราะไม่รู้ว่าจะปล้นใครอ่ะ พอมีเวลาเหลือก็เลยไปเดินป่าสนซีดานใกล้ๆ แล้วกลับมาลงเรือไปโทเกนได จุดชมฟูจิจะมีแค่ช่วงสิบนาทีแล้วที่ออกจากท่าเท่านั้น หลังจากนั้นจะมองไม่เห็นแล้ว ริมทะเลสาปจะเห็นเสาแดงโอโทริด้วย จากโทเกนไดก็นั่งกระเช้าต่อไปที่โอวาคุดานิที่มีบ่อน้ำพุร้อนและไข่ดำๆ แต่ตอนนี้เขาปิดซ่อมแซมเลยต้องนั่งรถบัสแทน

หลังจากไปถึงที่โอวาคุนิจะมองเห็นควันสีขาวลอยขึ้นมาชัดเจน ร้านค้าข้างล่างก็จะมีวางขายไข่ดำไว้ มันต้มเสร็จแล้วครับเขาไม่ให้เราต้มเอง เดินสักสิบห้านาทีก็จะถึงตรงจุดที่เขาต้ม ผู้คนจะยืนกินกันตรงนั้นเลย เขาว่ากันว่ากินไข่ดำๆ เนี่ยหนึ่งฟองอายุจะยืนขึ้นไปเจ็ดปี ผมเลยซัดไปซะสองฟองเลย ตกฟองละร้อยเยนครับ




กลับลงมาเดินเล่นแถวๆ ร้านค้าข้างล่างเพื่อหลบร้อนและเดินชิมขนมจนอิ่มหนำใจแล้วก็ซื้อโค้กติดมือไปจิบกินบนเคเบิ้ลข้างบน บนเคเบิ้ลนี้จะมองเห็นฟูจิอีกรอบ และมาลงเปลี่ยนเป็นรถไฟภูเขาที่โซอุนซานลงไปที่โกรา สวนที่โกราสามารถเข้าได้ฟรี แต่ช่วงนี้ดอกไม้ยังไม่ค่อยออกมากนัก ตรงกลางมีน้ำพุใหญ่น่านั่งพักผ่อน

หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟภูเขาลงมา ซิกแซกไปมาย้อนขึ้นย้อนลงจนงงเลย บางช่วงก็รอดอุโมงค์บ้าง ข้ามสะพานบ้าง สนุกดีจนกลับมาถึงฮาโกเนะยูโมโต้ แล้วต่อรถไฟกลับไปโอดาวาระ เป็นอันจบทริป อาจจะรวบรัดไปหน่อยเพราะจำไม่ค่อยได้แล้ว

No comments: