

เดินผ่านสวนสาธารณะที่มีน้ำพุสวยๆ ไปสัก 5 นาทีก็จะมองเห็นคูน้ำแล้วไปตามทางเดินเลยครับ ช่วงนี้หน้าหนาวต้นไม้เลยไม่ค่อยสวยจะเห็นแต่ต้นสนรูปพินท์โบวลิ่งเท่านั้น พอใกล้จะถึงตัวปราสาทจะมีร้านค้ามากมาย หน้าประตูทางเข้าปราสาทมีซามูไรยืนอยู่ตอนแรกก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปขอถ่ายรูปด้วย แต่พี่ไทยหน้าด้านอยู่แล้วเดินเข้าไปขอจับมือเท่านั้นหล่ะอย่างรูปที่เห็นเลยครับ หลายท่าทางก็ออกมา 555 แกใจดีมากๆเลย เดินมาอีกสักหน่อยจะเห็นปราสาทด้านในที่มุมของหลังคาจะมีปลาตัวใหญ่สีทองอยู่ด้วย

ค่าเข้าชมเสียกันคนละ 600 เยน แต่ถ้ามากันมากกว่า 15 คน จะเหลือคนละ 540 เยน พวกเราก็เลยเสียกันคนละ 600 เยน โดยการไปหยอดที่ตู้ขายตั่๋วแล้วเดินผ่านทางเข้าที่มีคนตรวจอยู่ ได้จังหวะเจอตำรวจก็เลยขอถ่ายรูปด้วยเลยครับ แล้วพวกเราก็เข้าไปข้างในกัน
พนักงานต้อนรับจะพาพวกเราขึ้นไปชั้นบนคือชั้น 5 ก่อนแต่พวกเราต้องเดินต่อไปชั้น 7 เองซึ่งเป็นชั้นที่เป้นจุดชมวิวรอบๆ โอซาก้า สามารถมองเห็นเทือกเขา เห็นสนามเบสบอล เห็นตึกสูงๆ มากมายถ้าอากาศดีๆ น่าจะมองเห็นทะเลด้วย พวกเราเดินลงบันไดมาเลยๆ ภายในก็มีเรื่องราวประวัติการก่อสร้างปราสาท ประวัติของผู้สร้างคือ โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ ประวัติการทำสงคราม และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ มีอนิเมชั้นด้วย แต่บางอันก็ไม่มีอธิบายภาษาอังกฤษไว้ เพราะเขาพูดแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนเลย
เอาเป็นว่าของฝากของโอซาก้านี่น่ารักทั้งนั้นเลย
2 comments:
ไหนอ่ะ รูปของฝากอ่ะ ...
ไว้แวะมาใหม่ ควรเขียนทุกวันนะ ..
เค้าถึงจะเรียกว่าไดอารี่ น่ะ ... อิอิ :)
เอ แล้วทำงัยให้ไปอยู่ใน list ผู้ติดตามหว่า ???
การบ้านเริ่มเยอะแล้วครับ เลยไม่ได้เขียนทุกวันอ่ะ
Post a Comment